ต่อวีซ่าแรงงานต่างด้าว

แรงงานต่างด้าวท้องใกล้คลอด จะได้รับสิทธิพิเศษอะไรบ้าง

👩‍🍼 แรงงานต่างด้าวท้องใกล้คลอด มีสิทธิอะไรบ้าง?

แรงงานต่างด้าวที่ทำงานอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสัญชาติเมียนมา ลาว หรือกัมพูชา หากมีการขึ้นทะเบียนแรงงานถูกต้องและส่งประกันสังคมอย่างต่อเนื่อง จะได้รับสิทธิ “เหมือนแรงงานไทย” ทุกประการ โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์และใกล้คลอด ซึ่งถือเป็นช่วงสำคัญที่ต้องได้รับการดูแลทั้งทางกายและสิทธิประโยชน์ทางกฎหมาย

1. สิทธิในการลาคลอด 98 วัน (รวมวันหยุด)

แรงงานหญิงที่ตั้งครรภ์สามารถลาคลอดได้ รวมทั้งหมด 98 วัน โดยไม่ถือว่าขาดงาน ซึ่งแบ่งออกเป็น

  • ก่อนคลอดไม่เกิน 45 วัน

  • หลังคลอดไม่เกิน 53 วัน

ในระหว่างการลาคลอด นายจ้าง ไม่มีสิทธิเลิกจ้าง เพราะถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541

2. เงินลาคลอดจากประกันสังคม

หากแรงงานต่างด้าวส่งเงินสมทบประกันสังคมมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 เดือนในช่วง 15 เดือนก่อนคลอดบุตร
จะได้รับสิทธิ เงินชดเชยระหว่างลาคลอด 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย เป็นเวลา 90 วัน

ยกตัวอย่างเช่น

 

หากแรงงานมีรายได้เฉลี่ย 10,000 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินชดเชยประมาณ 15,000 บาทจากประกันสังคม

3. ค่าคลอดบุตร 15,000 บาท (ต่อการคลอด 1 ครั้ง)

แรงงานต่างด้าวหญิงที่อยู่ในระบบประกันสังคมจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าคลอดบุตร 15,000 บาท/ครั้ง โดยสามารถเบิกได้ที่สำนักงานประกันสังคมหรือผ่านระบบออนไลน์

เอกสารที่ต้องใช้ ได้แก่

 

  • ใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยสถานพยาบาล

  • สำเนาบัตรประกันสังคม

  • สำเนาหนังสือเดินทางหรือบัตรแรงงาน

  • ใบเสร็จค่าคลอด (ถ้ามี)

4. เงินสงเคราะห์บุตร เดือนละ 800 บาท

หลังคลอด หากแรงงานต่างด้าวยังคงส่งเงินสมทบต่อเนื่อง จะได้รับ เงินสงเคราะห์บุตรเดือนละ 800 บาท/บุตร 1 คน จนกว่าบุตรจะมีอายุครบ 6 ปี (สูงสุดไม่เกิน 3 คน)

ถือเป็นอีกสิทธิที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวแรงงานต่างด้าวได้มากทีเดียว

5. สิทธิในการรักษาพยาบาลระหว่างตั้งครรภ์

แรงงานต่างด้าวที่อยู่ในระบบประกันสังคมสามารถเข้ารับการตรวจครรภ์ได้ฟรีตามสิทธิที่โรงพยาบาลคู่สัญญากำหนด โดยมีสิทธิ ตรวจครรภ์ก่อนคลอดสูงสุด 5 ครั้ง ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด เช่น

  • ค่าตรวจสุขภาพแม่และทารก

  • ค่ายาและวิตามิน

  • ค่าฝากครรภ์

นอกจากนี้ หากมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างคลอดหรือหลังคลอด ประกันสังคมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามอัตราที่กำหนด

6. นายจ้างมีหน้าที่อย่างไรบ้าง?

นายจ้างควรให้ความร่วมมือและสนับสนุนแรงงานหญิงตั้งครรภ์ โดย

  • ไม่เลิกจ้างเพราะเหตุตั้งครรภ์

  • จัดเวลางานที่เหมาะสม ไม่ให้ทำงานหนักหรือเสี่ยงอันตราย

  • ให้ลาคลอดตามสิทธิที่กฎหมายกำหนด

  • ให้ความช่วยเหลือด้านเอกสารหากแรงงานต้องการใช้สิทธิกับประกันสังคม

การดูแลแรงงานหญิงที่ตั้งครรภ์ไม่ใช่เพียงการทำตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความไว้วางใจและภาพลักษณ์ที่ดีต่อบริษัท

7. ถ้ายังไม่ได้เข้าสู่ระบบประกันสังคม ควรทำอย่างไร?

แรงงานต่างด้าวที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ควรรีบแจ้งให้นายจ้างขึ้นทะเบียนและส่งเงินสมทบทันที เพราะสิทธิทั้งหมดข้างต้นจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่เข้าระบบเท่านั้น

การอยู่ในระบบอย่างถูกต้อง ยังช่วยให้แรงงานได้รับความคุ้มครองกรณีเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ และชราภาพอีกด้วย

📢 สรุปสิทธิแรงงานต่างด้าวขณะตั้งครรภ์

สิทธิรายละเอียด
ลาคลอด98 วัน รวมวันหยุด
เงินลาคลอด50% ของค่าจ้างเฉลี่ย 90 วัน
ค่าคลอดบุตร15,000 บาท/ครั้ง
เงินสงเคราะห์บุตร800 บาท/เดือน/คน (สูงสุด 3 คน)
สิทธิรักษาพยาบาลตรวจครรภ์และคลอดฟรีตามสิทธิ
ข้อห้ามนายจ้างห้ามเลิกจ้างเพราะตั้งครรภ์

💬 บทสรุป

แรงงานต่างด้าวหญิงที่ทำงานอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทย มีสิทธิได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายแรงงานและประกันสังคมไม่ต่างจากแรงงานไทย
การรู้สิทธิเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้แรงงานได้รับสวัสดิการครบถ้วน แต่ยังช่วยให้นายจ้างเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายได้ถูกต้อง

หากแรงงานใกล้คลอดและยังไม่แน่ใจเรื่องเอกสาร หรือขั้นตอนการใช้สิทธิ
👉 สามารถติดต่อ “บนจ.ลีนแมน จำกัด” เพื่อรับคำแนะนำและตรวจเอกสารฟรีได้เลย!

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *