admin

นายจ้างทำร้ายแรงงาน ถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่? การที่นายจ้างทำร้ายร่างกายแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นแรงงานไทยหรือต่างด้าว ถือว่าเป็น ความผิดทางอาญา ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 (ทำร้ายร่างกายผู้อื่น) ซึ่งมีโทษทั้ง จำคุกและปรับ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของบาดแผล นอกจากนี้ยังอาจขัดต่อ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ที่กำหนดให้นายจ้างต้องดูแลลูกจ้างด้วยความปลอดภัย แรงงานควรทำอย่างไรหากถูกนายจ้างทำร้าย รักษาความปลอดภัยและไปพบแพทย์ หากได้รับบาดเจ็บ ควรรีบไปพบแพทย์และขอใบรับรองแพทย์เป็นหลักฐาน แจ้งความที่สถานีตำรวจทันที เพื่อให้ตำรวจบันทึกเหตุการณ์และดำเนินคดีตามกฎหมาย รวบรวมพยานหลักฐาน เช่น ภาพถ่ายบาดแผล, วิดีโอ, กล้องวงจรปิด, หรือคำให้การจากเพื่อนร่วมงาน ติดต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อขอความช่วยเหลือและปกป้องสิทธิแรงงาน ติดต่อสถานทูตของแรงงาน (กรณีแรงงานต่างด้าว) เพื่อขอการช่วยเหลือด้านกฎหมายและการคุ้มครอง สิทธิของแรงงานตามกฎหมาย สิทธิได้รับความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน สิทธิในการร้องเรียนและได้รับการคุ้มครองจากรัฐ สิทธิฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหากถูกทำร้าย โทษที่นายจ้างอาจได้รับ กฎหมายอาญา: จำคุกหรือปรับ ตามความรุนแรงของการกระทำ กฎหมายแรงงาน: อาจถูกสั่งห้ามประกอบกิจการในบางกรณี หากมีการละเมิดสิทธิลูกจ้างซ้ำซาก ผลกระทบทางธุรกิจ: สูญเสียชื่อเสียง และเสี่ยงถูกตรวจสอบกิจการ วิธีป้องกันปัญหานายจ้างทำร้ายแรงงาน จัดให้มีช่องทางการสื่อสารที่ชัดเจน ใช้ล่ามหรือผู้ประสานงานเพื่อลดความเข้าใจผิด ร่วมมือกับบริษัทจัดหาแรงงานที่มีมาตรฐาน เพื่อลดความขัดแย้ง …

แรงงานถูกนายจ้างทำร้าย ควรทำอย่างไร? Read More »

ปัญหาแรงงานหลบหนีหรือลาออก แรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในไทย บางครั้งอาจเกิดปัญหาการ ลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้า หรือ หลบหนีหายไป ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนให้นายจ้าง ทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจ และความเสี่ยงทางกฎหมายหากไม่จัดการให้ถูกต้อง นายจ้างต้องทำอย่างไรเมื่อแรงงานลาออกหรือหลบหนี 1. แจ้งออกแรงงานกับกรมการจัดหางาน นายจ้างต้องรีบแจ้งกรมการจัดหางานในพื้นที่ภายใน 15 วัน นับจากวันที่แรงงานลาออกหรือหลบหนี หากไม่แจ้ง นายจ้างอาจถูกมองว่าปล่อยปละละเลย และมีความผิดตามกฎหมาย 2. เก็บหลักฐานการลาออกหรือหลบหนี หากเป็นการลาออก ควรเก็บหนังสือลาออกหรือข้อความที่แรงงานแจ้งไว้ หากเป็นการหลบหนี ควรเก็บหลักฐาน เช่น กล้องวงจรปิด หรือคำยืนยันจากเพื่อนร่วมงาน 3. ยกเลิกสัญญาจ้างและใบอนุญาตทำงาน เมื่อแรงงานไม่อยู่กับนายจ้างแล้ว ต้องดำเนินการยกเลิกสัญญาและใบอนุญาตทำงาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางกฎหมาย 4. จัดหาแรงงานใหม่อย่างถูกต้อง นายจ้างสามารถยื่นเรื่องเพื่อ ขอแรงงานทดแทน ได้ตามระบบนำเข้าแรงงานถูกกฎหมาย การใช้แรงงานเถื่อนแทน อาจนำมาซึ่งโทษปรับและความเสียหายระยะยาว โทษที่อาจเกิดขึ้นหากนายจ้างไม่แจ้ง เสี่ยงต่อการถูกปรับฐานไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน หากแรงงานไปก่อเหตุผิดกฎหมาย นายจ้างอาจถูกเรียกตรวจสอบ มีปัญหาการขอแรงงานใหม่ เพราะข้อมูลไม่ตรงกับระบบ วิธีป้องกันแรงงานหลบหนี ทำสัญญาจ้างงานที่ชัดเจน จัดการเรื่องสวัสดิการ ค่าจ้าง และการดูแลแรงงานอย่างเหมาะสม ใช้บริการนำเข้าแรงงานที่ถูกกฎหมายและมีการตรวจสอบประวัติ สรุป หากแรงงานต่างด้าว ลาออกหรือหลบหนี …

แรงงานหลบหนีหรือลาออก นายจ้างต้องทำอย่างไร Read More »

รัฐบาลเตรียมเปิดให้แรงงานกลุ่มไม่มีเอกสารขึ้นทะเบียน ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 รัฐบาลได้เห็นชอบให้แรงงานต่างด้าวที่ไม่มีเอกสาร หรือมีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถขึ้นทะเบียนใหม่ได้ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในประเทศ และเพิ่มการควบคุมแรงงานต่างด้าวให้อยู่ในระบบอย่างถูกต้อง แรงงานกลุ่มใดบ้างที่สามารถขึ้นทะเบียนได้ แรงงานที่เข้าเกณฑ์ ได้แก่ แรงงานที่มีนายจ้างและมีงานทำอยู่แล้ว แต่ไม่มีเอกสาร แรงงานที่หลบหนีเข้าเมืองและไม่มีเอกสารใด ๆ แรงงานที่มีเอกสารหมดอายุ เช่น พาสปอร์ต, วีซ่า, ใบอนุญาตทำงาน แรงงานที่มีเอกสารครบแต่ไม่ได้แจ้งออกจากนายจ้างเดิม แรงงานสัญชาติเวียดนามที่มีหนังสือเดินทางและตราประทับถูกต้อง ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนแรงงาน ยื่นบัญชีรายชื่อแรงงานต่างด้าว ผ่านเว็บไซต์ workpermit2024.doe.go.th ภายใน 30 ธันวาคม 2567 ตรวจสุขภาพแรงงาน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ภายใน 30 มีนาคม 2568 ทำประกันสุขภาพแรงงาน ตามประเภทงานที่ทำ ยื่นขอใบอนุญาตทำงาน พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ภายใน 30 มีนาคม 2568 เหตุผลที่รัฐบาลเปิดให้ขึ้นทะเบียน ลดปัญหาแรงงานผิดกฎหมายในประเทศ แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในบางอุตสาหกรรม เช่น ก่อสร้าง เกษตร และบริการ …

แรงงานกลุ่มที่ไม่มีเอกสาร เตรียมตัว ขึ้นทะเบียนเร็วๆนี้ Read More »

นายจ้างถูกแรงงานทำร้าย ถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่? หากแรงงานทำร้ายนายจ้าง ไม่ว่าจะเป็นแรงงานไทยหรือแรงงานต่างด้าว ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายอาญา ฐานทำร้ายร่างกาย ซึ่งมีโทษปรับหรือจำคุก ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการบาดเจ็บ นายจ้างควรทำอย่างไรเมื่อถูกแรงงานทำร้าย ดูแลความปลอดภัยเป็นอันดับแรก – หากได้รับบาดเจ็บ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาและออกใบรับรองแพทย์ แจ้งความกับตำรวจทันที – การแจ้งความคือการบันทึกเหตุการณ์เป็นหลักฐานทางกฎหมาย รวบรวมพยานหลักฐาน – เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด, พยานบุคคล, ใบรับรองแพทย์ แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง – หากเป็นแรงงานต่างด้าว ควรแจ้งกรมการจัดหางาน หรือสำนักงานแรงงานในพื้นที่ พิจารณายกเลิกสัญญาจ้าง – นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างแรงงานที่ก่อเหตุร้ายแรง โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน โทษทางกฎหมายสำหรับแรงงานที่ทำร้ายนายจ้าง กฎหมายอาญา: มีโทษจำคุกหรือปรับ ตามมาตรา 295 (ทำร้ายร่างกาย) หรือมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง กฎหมายแรงงาน: นายจ้างสามารถเลิกจ้างได้ทันทีโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย เพราะถือเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง แนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ คัดเลือกแรงงานอย่างรอบคอบ โดยใช้บริษัทนำเข้าแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย มี ล่ามหรือผู้ประสานงาน เพื่อลดความเข้าใจผิดในการสื่อสาร สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี มีการพูดคุย แก้ไขปัญหาอย่างตรงไปตรงมา กำหนดกฎระเบียบและบทลงโทษให้ชัดเจน สรุป …

นายจ้างถูกแรงงานทำร้าย ควรทำอย่างไร? Read More »

ตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้าง ตรงเวลา และ ตรงตามสัญญา หากฝ่าฝืน เช่น จ่ายช้ากว่ากำหนด, จ่ายไม่ครบ, จ่ายต่ำกว่าที่ตกลงกันไว้ หรือหักเงินโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ถือว่า ผิดกฎหมายแรงงาน และลูกจ้างสามารถร้องเรียนได้ทันที กรณีจ่ายไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ จ่ายไม่ครบจำนวน เช่น ตกลงวันละ 400 บาท แต่จ่ายเพียง 350 บาท จ่ายต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งผิดกฎหมายชัดเจน หักเงินโดยไม่มีกฎหมายรองรับ เช่น หักค่าทำพลาด, หักค่าน้ำค่าไฟ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง จ่ายล่าช้า + ไม่ครบ ซึ่งเป็นความผิดซ้ำซ้อน สิทธิของลูกจ้างเมื่อนายจ้างทำผิดข้อตกลง ทวงถามและขอหลักฐาน การจ่ายเงินจากนายจ้าง เก็บสัญญาจ้าง / สลิปเงินเดือน ไว้เป็นหลักฐาน ร้องเรียนกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือสายด่วนแรงงาน 1506 ฟ้องศาลแรงงาน หากไม่ได้รับการแก้ไ ผลเสียต่อนายจ้าง มีโอกาสถูก ปรับหรือดำเนินคดี สร้าง ความไม่พอใจและแรงงานลาออก ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและการดำเนินธุรกิจ …

นายจ้างจ่ายค่าแรงไม่ตรงกำหนด หรือไม่ตรงตามที่ตกลง Read More »

แรงงานต่างด้าวทำงานรักษาความปลอดภัยได้หรือไม่ กฎหมายแรงงานต่างด้าวเกี่ยวกับงานรักษาความปลอดภัย ตาม พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และแก้ไขเพิ่มเติม ได้กำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ (งานสงวนสำหรับคนไทย) เอาไว้ชัดเจน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “งานรักษาความปลอดภัย” (Security Guard) เหตุผลที่แรงงานต่างด้าวห้ามทำงาน รปภ. เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ต้องมีความเข้าใจด้านภาษาและกฎหมายไทย กฎหมายห้ามอย่างชัดเจน บทลงโทษหากฝ่าฝืน แรงงานต่างด้าว: หากทำงานที่ห้าม เช่น รปภ. มีโทษปรับหรือถูกส่งกลับประเทศ นายจ้าง: หากจ้างแรงงานต่างด้าวทำงานต้องห้าม จะมีโทษปรับสูงตามที่กฎหมายกำหนด งานที่แรงงานต่างด้าวสามารถทำได้ งานก่อสร้าง งานประมง งานเกษตรกรรม งานโรงงาน งานแม่บ้าน / พี่เลี้ยงเด็ก / คนดูแลผู้สูงอายุ สรุป: แรงงานต่างด้าวทำงาน รปภ. ได้หรือไม่? แรงงานต่างด้าว ไม่สามารถทำงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ได้ตามกฎหมายไทยนายจ้างควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแรงงานต่างด้าวที่จ้างมาทำงาน อยู่ในตำแหน่งงานที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น Post Views: 355

ทำไมแรงงานลาวถึงเป็นที่ต้องการในสายงานบริการ ในปัจจุบัน ตลาดแรงงานไทยมีความต้องการแรงงานต่างด้าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสายงานบริการ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม สปา และงานแม่บ้าน ซึ่งหนึ่งในสัญชาติที่ได้รับความนิยมจากนายจ้างคือ แรงงานสัญชาติลาว แล้วเหตุผลอะไรที่ทำให้แรงงานลาวเป็นที่ต้องการมากในธุรกิจเหล่านี้? มาดูกัน แรงงานลาวสามารถสื่อสารภาษาไทยได้ชัดเจน เข้าใจง่าย และยังมีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกับคนไทย ทำให้การทำงานร่วมกันราบรื่น ลดปัญหาการสื่อสาร และสร้างบรรยากาศการบริการที่เป็นมิตรกับลูกค้า 1. ภาษาและวัฒนธรรมใกล้เคียงกับไทย แรงงานลาวสามารถเรียนรู้งานใหม่ได้เร็ว และพร้อมปรับตัวเข้ากับสภาพการทำงานในไทย ไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบ การแต่งกาย หรือมาตรฐานการบริการที่แตกต่างจากบ้านเกิด 3. ปรับตัวเข้ากับสภาพงานได้ดี นายจ้างหลายรายชื่นชมแรงงานลาวในเรื่องความขยัน อดทน และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ จึงเหมาะกับงานบริการที่ต้องอาศัยความละเอียดและเอาใจใส่ เช่น งานต้อนรับลูกค้า งานเสิร์ฟ หรือดูแลความสะอาด 2. ความขยันและรับผิดชอบสูง ประเทศไทยและลาวมีพรมแดนติดกัน ทำให้แรงงานสามารถเดินทางเข้ามาทำงานได้สะดวก การต่ออายุเอกสารหรือกลับไปเยี่ยมครอบครัวก็ไม่ยุ่งยาก ส่งผลให้นายจ้างมั่นใจว่าจะมีแรงงานทำงานต่อเนื่อง 4. ใกล้บ้าน เดินทางสะดวก สรุป แรงงานลาวมีจุดเด่นทั้งด้านภาษา วัฒนธรรม ความขยัน และความรับผิดชอบ จึงกลายเป็นที่ต้องการในสายงานบริการอย่างมาก หากนายจ้างต้องการแรงงานที่สามารถทำงานร่วมกับทีมได้ดีและมอบบริการคุณภาพแก่ลูกค้า แรงงานลาวถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เว็บไซต์ภายใน (Internal …

ทำไมแรงงานลาวถึงเป็นที่ต้องการในสายงานบริการ Read More »

อัปเดตกระบวนการและแนวทางล่าสุดในการต่ออายุใบอนุญาตทำงานและวีซ่าสำหรับแรงงานเมียนมา (กลุ่มใบอนุญาตหมดอายุ 13 ก.พ. 68) – ครบขั้นตอน เอกสารที่ต้องใช้ และระยะเวลาล่าสุด ขั้นตอนการดำเนินการ (Process)การลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์เฉพาะของเมียนมา (MOU): [mou2024.doe.go.th] 1.ลงทะเบียนออนไลน์และยืนยันตัวตน + แนบเอกสาร (บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน ฯลฯ) 2.ประเทศต้นทาง (เมียนมา) ตรวจสอบข้อมูลและออก Name List 3.ตรวจสุขภาพแรงงาน และจัดทำประกัน (หากไม่มีประกันสังคม) 4.ยื่นคำขอขออนุญาตทำงาน (Work Permit) 2 ปี และขอต่อวีซ่า Non-Immigrant LA อีก 2 ปี 5.ตรวจลงตรา Visa, ออกใบแทนใบอนุญาตทำงาน และระบบเชื่อมต่อข้อมูลเสร็จสิ้น บนจ.ลีนแมนhttp://www.leanman.co.th เอกสารที่ต้องเตรียม นายจ้าง (บุคคลธรรมดา / นิติบุคคล) บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน (นิติบุคคล) หนังสือรับรองบริษัทอายุไม่เกิน 3–6 เดือน ระยะเวลาและค่าธรรมเนียม …

อัปเดตล่าสุด กลุ่มแรงงานเมียนมา ใบอนุญาตหมดอายุ 13 ก.พ. 68 Read More »

หนังสือประชาสัมพันธ์จากกรมการจัดหางานนี้ แจ้งเรื่องการจัดตั้งศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคล (Certificate of Identity: CI) ของทางการเมียนมา สำหรับแรงงานสัญชาติเมียนมาที่ทำงานในประเทศไทย รายชื่อ ศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคล (CI) สำหรับแรงงานเมียนมา ปี 2568 ทั้ง 4 แห่ง มีดังนี้: 1. ศูนย์สมุทรสาคร สถานที่ตั้ง: ตลาดทะเลไทย ถนนพระราม 2 หมู่ที่ 1 ตำบลท่าจีน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร https://maps.app.goo.gl/zJsnZEBB5mLkFm6n9 2. ศูนย์สมุทรปราการ สถานที่ตั้ง: บริษัท รอยัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หมู่ที่ 3 ตำบลบางจาก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ https://maps.app.goo.gl/3LJD1JrWKNMPwY3w8 3. ศูนย์สุราษฎร์ธานี สถานที่ตั้ง: มหาวิทยาลัยตาปี หมู่ที่ 7 ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี https://maps.app.goo.gl/hZDzPDMJ7Lpc5jmw5 4. ศูนย์เชียงใหม่ …

ศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคล CI สำหรับแรงงานเมียนมา (ปี 2568) Read More »

แรงงานต่างด้าวทำงานเกิน 8 ชั่วโมงได้หรือไม่? หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่นายจ้างมักสงสัยคือ สามารถให้แรงงานต่างด้าวทำงานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวันได้หรือไม่? คำตอบคือ “ได้” แต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานอย่างเคร่งครัด ข้อกำหนดตามกฎหมายแรงงานไทย ตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 กำหนดไว้ว่า: ชั่วโมงการทำงานปกติ ไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน และ ไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หากจำเป็นต้องให้แรงงานทำงานเกิน 8 ชั่วโมง ต้องถือเป็น การทำงานล่วงเวลา (OT) ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างก่อน เงื่อนไขการทำงานล่วงเวลา (OT) การทำงานล่วงเวลาของแรงงานต่างด้าวต้องเป็นไปตามเงื่อนไขดังนี้: ต้องได้รับความยินยอมจากแรงงาน โดยสมัครใจ ต้องจ่ายค่าล่วงเวลา ตามที่กฎหมายกำหนด วันทำงานปกติ: 1.5 เท่า ของค่าจ้างรายชั่วโมง วันหยุด: 2 เท่า หรือ 3 เท่า ขึ้นอยู่กับประเภทงาน ต้องมี การบันทึกเวลาการทำงานล่วงเวลา และให้แรงงานเซ็นชื่อรับทราบ นายจ้างที่ไม่ทำตามเสี่ยงอะไร? หากนายจ้างให้แรงงานต่างด้าวทำงานเกินเวลาโดยไม่จ่าย OT …

แรงงานต่างด้าวทำงานเกิน 8 ชั่วโมงได้หรือไม่? Read More »